ไหว้พระที่ วัดดอกบัว-วัดป่าภูก้อน สองวัดศักดิ์สิทธิ์ที่อุดรธานี

อุดรธานี

เที่ยวไทย อุดรธานีเป็นจังหวัดขนาดใหญ่ที่เป็นศูนย์กลางการคมนาคม การค้า และการท่องเที่ยวในภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทย จังหวัดนี้เป็นดินแดนแห่งวัดป่าและเป็นประตูสู่ประเทศลาว อุดรธานียังมีแหล่งโบราณคดีที่เป็นหลักฐานของอารยธรรมยุคสำริดที่เก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก เป็นจังหวัดที่มีแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติและเป็นที่รู้จักกันดีในด้านสิ่งทอสไตล์ขิด

สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยม

  1. ทะเลสาบบัวแดง กุมภวาปี (40 กม. จากศูนย์อุดรธานี) วิธีการเดินทาง: คุณสามารถเช่ารถและขับรถ เช่ารถแท็กซี่ หรือเยี่ยมชมทะเลสาบโดยเป็นส่วนหนึ่งของทัวร์ หากคุณพักค้างคืนในอุดรธานี โรงแรมจะสามารถจัดเตรียมให้คุณได้หรือติดต่อใครก็ได้ที่สามารถช่วยเหลือคุณได้

ข้อมูลทัวร์ทะเลสาบบัวแดงสามารถหาได้จากสำนักงานการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ตรงข้ามสวนสาธารณะหนองประจักษ์ นอกจากนี้ยังมีตู้บริการข้อมูลท่องเที่ยวที่ยูดีทาวน์ ห้างสรรพสินค้าใกล้สถานีรถไฟ

  1. (วัดดอกบัว) วัดสันติวนาราม หรือ วัดป่าดงราย (65km จากสนามบินอุดรธานี)

ข้อมูล เที่ยวไทย ที่วัดดอกบัว ห่างจากบ้านเชียงไปทางเหนือประมาณ 3 กิโลเมตร คือวัดสันติวนาราม (วัดสันติวนาราม) อยู่ใน อ.หนองหาน จ.อุดรธานี ที่น่าสังเกตคือพระอุโบสถริมทะเลสาบที่มีรูปร่างคล้ายดอกบัวยักษ์ ด้านในมีภาพจิตรกรรมฝาผนังที่สวยงามซึ่งแสดงเรื่องราวของพระพุทธเจ้า ภายในมีพระพุทธสีขาวองค์ใหญ่ โบสถ์มีเส้นผ่านศูนย์กลาง 19 เมตร และสูง 19 เมตร ประกอบด้วยกลีบบัว 24 กลีบ การป้องกันทางเข้าอุโบสถคือพญานาคสองตัว

  1. วัดป่าภูก้อน (125กม. จากสนามบินอุดรธานี) วัดนี้ล้อมรอบพื้นที่ป่าเขียวชอุ่มเกือบ 400 เอเคอร์ และเป็นผลให้เป็นสถานที่เงียบสงบสำหรับการฝึกสมาธิแบบพุทธ ตั้งอยู่ติดกับวัดเป็นเจดีย์ (หรือที่เรียกว่าเจดีย์) ชื่อปฐมรัตนมหาบูรพาจารย์ซึ่งเชื่อว่าเป็นที่ประดิษฐานพระธาตุศักดิ์สิทธิ์ เจดีย์สร้างขึ้นในสไตล์ลังกาสูง 25 เมตรและตกแต่งด้วยกระเบื้องโมเสคสีทอง
  2. จุดชมวิวผาแดง (อุทยานแห่งชาติตาพระยา บุรีรัมย์) ทิวทัศน์ที่สวยงามและการถ่ายภาพเป็นกิจกรรมที่มีให้ที่นี่ จากที่ทำการอุทยานแห่งชาติตาพระยาไปอำเภอโนนดินแดงเป็นระยะทาง 4 กิโลเมตร จะถึงด่านตรวจชายแดน เลี้ยวขวาและตรงไปประมาณหนึ่งกิโลเมตร

นั่งสามล้อเที่ยวทั่วกรุงเทพพร้อมทานอาหารที่หลากหลายของไทย

นั่งตุ๊กตุ๊ก

พบกับไกด์นำเที่ยวทั่วไทยที่จุดนัดพบกลางในตอนเย็น เดินทางผ่านเมืองด้วยแท็กซี่ “ตุ๊ก-ตุ๊ก” ที่มีชื่อเสียงของเมืองพร้อมไกด์ผู้เชี่ยวชาญด้านอาหาร ชิมอาหารข้างทางในตำนานของเมืองหลวงไทยและสถานที่ท่องเที่ยวในยามค่ำคืน

ขับผ่านการจราจรในกรุงเทพฯ เมื่อคุณแวะที่แผงขายริมถนนที่มีชื่อเสียงเพื่อลิ้มลองอาหารท้องถิ่นจานโปรด เช่น ผัดไทยที่ “ดีที่สุด” ของเมือง “ก๋วยเตี๊ยวกัวไก่” (ก๋วยเตี๋ยวไก่ใส่ไก่) และอาหารไทย “อีสาน” ที่อร่อยแบบอีสาน ขณะที่คุณทานของว่าง ไกด์จะช่วยอธิบายเทคนิคการทำอาหารและส่วนผสมที่ทำให้อาหารง่ายๆ เหล่านี้อร่อยมาก

ผจญภัยเที่ยวทั่วไทยยามค่ำคืนต่อโดยเยี่ยมชมสถานที่ท่องเที่ยวในกรุงเทพฯ เช่น วัด ตลาดดอกไม้ และสถานที่สำคัญต่างๆ ของเมืองเก่าในยามค่ำคืน บรรยากาศที่แตกต่างหลังจากพระอาทิตย์ตกดินทำให้ประสบการณ์ที่ไม่เหมือนใคร

เมื่อสิ้นสุดการรับประทานอาหารว่างและการสำรวจ ไกด์นำเที่ยวจะส่งคุณกลับไปที่โรงแรมในกรุงเทพฯ

กรุงเทพมหานครเป็นหนึ่งในเมืองอาหารข้างทางที่ยิ่งใหญ่ของโลก พบกับไฮไลท์หลังมืดในสไตล์ท้องถิ่นอย่างแท้จริงด้วยรถตุ๊ก-ตุ๊ก 3 ล้อพร้อมไกด์นักชิมที่รู้เหตุการณ์เบื้องหลัง อิ่มอร่อยกับอาหารตั้งแต่ผัดไทยไปจนถึงอาหารอีสาน จากนั้นดื่มด่ำกับบรรยากาศที่วัด ตลาดดอกไม้ และสถานที่สำคัญต่างๆ ของเมืองเก่า

ลองชิมอาหารข้างทางเพื่อประกอบอาหารมื้อค่ำเต็มรูปแบบ รวมทั้งเบียร์ท้องถิ่น, จำกัดจำนวนนักเดินทางเพียง 12 คน เพื่อสัมผัสประสบการณ์ที่ใกล้ชิดยิ่งขึ้น , เดินทางอย่างปลอดภัย: ไกด์จะพาคุณกลับไปที่โรงแรมในตัวเมือง แต่ว่าสิ่งหนึ่งที่ต้องพึงตระหนักเลยคือควรมีไกด์ที่เชื่อใจได้ด้วย

ททท ปรับรายละเอียดเฟส 3 โครงการเราเที่ยวด้วยกัน

เราเที่ยวด้วยกัน

การลงทะเบียนสำหรับระยะที่ 3 ของการรณรงค์การท่องเที่ยว เราเที่ยวด้วยกัน ของรัฐบาลจะเริ่มขึ้นในเดือนหน้า หลังจากที่ประชุมคณะรัฐมนตรีเห็นชอบให้ขยายระยะเวลาการรณรงค์เป็นวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2565 คณะรัฐมนตรียังได้อนุมัติการเปลี่ยนแปลงการรณรงค์ทัวร์ท่องเที่ยวไทย

โฆษกรัฐบาล ดร.ธนกร วังบุญคงชนะ กล่าวว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีได้อนุมัติข้อเสนอการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ให้ปรับรายละเอียดระยะที่ 3 ของการรณรงค์ เราเที่ยวด้วยกัน และ Tour Travel Thai กรอบเวลาสำหรับทั้งสองการรณรงค์ได้ขยายออกไปถึงวันที่ 28 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2565 และประชาชนสามารถใช้สิทธิ์ของตนได้ไม่เกินวันที่ 31 มกราคมปีหน้า ททท. จะดำเนินการเบิกจ่ายให้เสร็จสิ้นภายในหนึ่งเดือน

มีการเปลี่ยนแปลง 2 รายการในการรณรงค์ Tour Travel Thai อนุญาตให้เดินทางระหว่างจังหวัดได้ทุกวัน ประการที่สอง จำนวนแผนการเดินทางจากแต่ละหน่วยงานเพิ่มขึ้นจาก 15 เป็น 30 และ ททท. ได้จัดตั้งแพลตฟอร์มการลงทะเบียนสำหรับพวกเขา

สำหรับเฟส 3 ของโครงการ เราเที่ยวด้วยกัน เปิดให้ลงทะเบียนตั้งแต่วันที่ 24 กันยายน ถึง 1 ตุลาคม  2564 ประชาชนจะได้ใช้สิทธิพิเศษของการรณรงค์ในเดือนหน้า

ในระยะที่ 3 ของการรณรงค์ รัฐบาลจะอุดหนุนค่าใช้จ่ายโรงแรมร้อยละ 40 หรือสูงถึง 3,000 บาทต่อห้องต่อคืน ผู้ที่มีคุณสมบัติจะได้รับคูปองอาหารสูงสุด 600 บาทต่อวัน ส่วนการเดินทางทางอากาศ รัฐบาลจะคืนเงินให้ร้อยละ 40 ของราคาตั๋ว หรือสูงสุด 2,000 บาท หรือ 3,000 บาท ตามเงื่อนไขที่แต่ละจังหวัดกำหนด

ส่วนการรณรงค์ทัวร์ไทย รัฐบาลจะสมทบเงิน 40 เปอร์เซ็นต์ของราคาแพ็คเกจทัวร์ หรือสูงสุด 5,000 บาทต่อคน

โฆษกรัฐบาลกล่าวว่าสถานการณ์ COVID-19 กำลังดีขึ้น การเปลี่ยนแปลงทั้งสองการรณรงค์จะช่วยกระตุ้นการท่องเที่ยวภายในประเทศ

พาท่อง “อีต่อง ปิล็อก” หมู่บ้านในหุบเขาแห่งกาญจนบุรี

เที่ยวเมืองกาญจน์

จังหวัดกาญจนบุรีมีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจมากมายหลายแห่ง ซึ่งแต่ละที่ก็จะมีเอกลักษณ์ความสวยงามที่แตกต่างกันไป วันนี้เราจะพาไปตะลอนท่องหมู่บ้านที่ได้ชื่อว่าเป็นหมู่บ้านกลางหุบเขา ซึ่งมีความสงบและสวยงามมากนั่นก็คือ “หมู่บ้านอีต่อง ปิล็อก”

 

ประวัติ “อีต่อง ปิล็อก”

หมู่บ้านอีต่องตั้งอยู่ทางสุดเขตชายแดนทางฝั่งอำเภอทองผาภูมิของจังหวัดกาญจนบุรี ซึ่งในพื้นที่เล็ก ๆ มีการทำเหมืองแร่ดีบุก ที่หลายคนคุ้นหูกันดีนั่นก็คือ “ปิล๊อก”

 

ซึ่งคำว่า “ปิล๊อก” มีหลายคนสงสัยว่าเป็นชื่อในภาษาไทยหรือไม่ จริง ๆ แล้วคำนี้มาจากคำว่า “ผีหลอก” นั่นเอง เนื่องจากว่าในอดีตเคยมีการปะทะกันระหว่าตำรวจไทยกับกรรมกรพม่าที่แอบนำแร่ไปขายให้อังกฤษ ซึ่งในเวลาต่อมาชาวพม่าพูดเพี้ยนจากคำว่าผีหลอกไปเป็น “ปิล๊อก” จึงเรียกชื่อนี้มาจนถึงปัจจุบัน

 

การท่องเที่ยว

เป็นหมู่บ้านที่มีความสงบร่มรื่น ล้อมรอบด้วยธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่มาแล้วต้องไม่พลาดที่จะแขวนป้ายไม้บนสะพาน ซึ่งถือว่าเป็นจุดเช็คอินเลยก็ว่าได้ และยังถ่ายภาพสวย ๆ กับสะพานที่เต็มไปด้วยป้ายไม้ที่แขวนไว้อย่างมากมายเมื่อลมพัดก็จะมีเสียงป้ายไม้ที่ปลิวกระทบกัน ซึ่งเป็นที่เสียงเขากับบรรยากาศของหมู่บ้าน นอกจากนี้ยังสามารถมองเห็น “สะพานเหมืองแร่” ที่มีอายุยาวนานมาหลายสิบปี รวมไปถึงสามารถชมความเก่าแก่ของเหมืองแร่ที่นี่ได้อีกด้วย

 

เที่ยวที่ไหนก็ไม่สวยเท่าที่บ้านเรา เมืองไทยเมืองแห่งวัฒนธรรมและความงามแบบธรรมชาติ โดยเฉพาะที่จังหวัดกาญจนบุรีที่มีแหล่งท่องเที่ยวที่หลากหลายรอให้คุณไปสัมผัส

พาดูสัตว์ที่ “สวนสัตว์เปิด ซาฟารี ปาร์ค แอนด์ แคมป์” สวนสัตว์เปิดในจังหวัดกาญจนบุรี

เที่ยวเมืองกาญจน์

จังหวัดกาญจนบุรีนอกจากจะมีบรรยากาศที่ดี นอนแพแบบผ่อนคลาย เที่ยววัดแหล่งโบราณคดี สัมผัสวิถีชาวบ้านที่หมู่บ้านอีต่อง และอีกหนึ่งไฮไลท์ ที่เหมาะสำหรับทุกคนในครอบครัวนั่นก็คือ “สวนสัตว์” ซึ่งที่เป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวก็คือ “สวนสัตว์เปิด ซาฟารี ปาร์ค แอนด์ แคมป์”

 

สวนสัตว์เปิด ซาฟารี ปาร์ค แอนด์ แคมป์ เป็นสวนสัตว์เปิดแห่งแรกในจังหวัดกาญจนบุรี ที่นี่เหมาะที่จะเป็นแหล่งเรียนรู้วิถีชีวิตสัตว์แบบใกล้ชิดให้คุณได้มาสัมผัสกับสัตว์ต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น ยีราฟ ม้าลาย อูฐ สิงโต เสือดาว กวาง นกต่าง ๆและอีกมากมาย โดยที่สวนสัตว์แห่งนี้มีรถมินิบัสคอยให้บริการ เพื่อนำคุณชมการแสดงของสัตว์ต่าง ๆ  เช่น โชว์ช้าง โชว์จระเข้ ซึ่งที่เป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวก็คือการให้อาหารน้องยีราฟ หรือหากต้องการถ่ายภาพแบบ Private กับน้อง ๆ ยีราฟ ม้าลาย กวาง ก็จะมีเจ้าหน้าที่คอยดูแลอย่างใกล้ชิด (แต่ราคาจะแตกต่างกว่าการเข้าชมแบบปกติ) บอกได้เลยว่าภาพที่คุณได้นั้น เหมือนได้ไปท่องเที่ยวที่ต่างประเทศกันเลย

 

ที่สวนสัตว์แห่งนี้เหมาะกับการท่องเที่ยวได้ทั้งครอบครัว เด็ก ๆ จะได้เห็นสัตว์ต่าง ๆ  รวมถึงการใช้ชีวิต การกินอาหาร ได้ให้อาหารกับสัตว์อย่างใกล้ชิด ถือว่าเป็นแหล่งเรียนรู้ที่ดีมาก  ส่วนผู้ใหญ่ก็จะได้สนุกกับเจ้าสัตว์น้อยใหญ่เหล่านี้ รวมถึงเซฟฟี่ ภาพสวย ๆ กับน้อง ๆ ได้อย่างใกล้ชิด

 

ใครที่กำลังมองหาที่เที่ยวที่ไปกันได้ทั้งครอบครัวสวนสัตว์เปิด ซาฟารี ปาร์ค แอนด์ แคมป์ รอให้คุณได้ไปเรียนรู้และสนุกกับน้อง ๆ สัตว์ที่น่ารักเหล่านี้อยู่นะคะ